วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

กล้ามอก 6

Flat Bench Dumbell Press

เป็นท่าสร้าง กล้ามอก ด้วยการยกดัมเบล สำหรับท่านี้ ท่าเตรียมดันอกจะใช้ม้านอน ในกรณีที่วอร์ม หรือใช้น้ำหนัก ดัมเบล เบาหรือน้อย ให้นอนไปก่อนค่อยยกดัมเบล แต่ในกรณีที่ใช้ น้ำหนักมาก ควรที่จะวางดัมเบล ไว้บนหัวเข่า เพื่อใช้สำหรับส่งแรง เวลาเราจะนอนหงาย พร้อมที่จะฝึก เมื่อเราพร้อมฝึก ให้นอนหงาย พร้อมๆกับ ดัมเบลที่วางบนหัวเข่า ให้ยกขาและส่งแรงดัมเบลไปวางอยู่ในท่านอน หายใจเข้า และดันดัมเบลขึ้นไปพร้อมๆกับพ่นลมหายใจออก ทำไมผมถึงให้พ่นลม ใช้ในกรณีที่ เราฝึกใช้น้ำหนักมากๆจะได้มีแรงยกได้หนักคับ และลดระดับดัมเบลลง หายใจเข้า ขาอยู่ในลักษณะ วางกับพื้นสบายๆ เมื่อฝึกจบในแต่ละเซท ให้ยกขา (หัวเข่า )ขึ้นมารับ ดัมเบล แต่ถ้าฝึกใช้ดัมเบลที่มีน้ำหนักมากๆ จะต้องมีเทรนเนอร์ หรือเพื่อนๆที่เป็นบัดดี้ คู่ฝึกอยู่บนศรีษะเรา ช่วยดันบริเวณ ไหล่ให้ขึ้นมาอยู่ในท่านั่งครับ สำหรับในช่วงที่ฝึก ไม่ควรใช้แรงของไหล่ช่วย เพราะจะทำให้กล้ามอกไม่ได้ออกแรงเลย การฝึกด้วยดัมเบล ค่อนข้างที่จะได้ผล ต่อการฝึก กล้ามอกอย่างมาก หลายๆคน พัฒนากล้ามไปมากก็ด้วย ท่าฝึกแบบ ฟรีเวทนี้ครับ การฝึก กล้ามเนื้อในแต่ละท่าส่วนมากจะฝึกกัน ท่าละ 3-4 เซท ซึ่งถ้ารวมแล้ว เช่นในการฝึกกล้ามอก ก็จะอยู่ที่ 15-20 เซทในส่วนกล้ามอก

วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

กล้ามอก 5

Incline Dumbell Press

ท่าดันอก ท่านี้จะคล้ายๆกับท่าที่ใช้คานบาเบล หรือเครื่องแมชชีนครับ แต่จะได้ออกกำลังในส่วนของข้อมือมากขึ้น เรียกได้ว่า แกร่งกว่าเดิมการฝึกแบบนี้เรียกว่า ฟรีเวทนั่นเอง หลายคนคงจะร้องอ๋อกันเลย ในฟิตเนสมัก ชอบพูดว่าฝึกกับเครื่องหรือฝึกแบบฟรีเวท ฟรีเวทก็คือการฝึกแบบน้ำหนักอิสระไม่มีอุปกรณ์ใดๆยึดเหนี่ยว ใช้แรงกำลังของเราล้วนๆครับ

เราจะอยู่ในท่าเตรียมคือ นั่งบนม้านอนที่มีมุมเอียงขนาด 45 องศานะคับ และเอาดัมเบลขนาดพอเหมาะที่เราสามารถฝึกได้ มาวอร์มกล้ามเนื้อก่อนเสมอ วางเท้าตามสบาย ไม่กางขามากจนเกินไป ตามองตรงหรือจะมองขึ้นฟ้าก็ได้แล้วแต่ถนัดครับ จับดัมเบล ให้วางตั้งเหมือนในภาพ วางไว้ที่หัวเข่านะคับ ในกรณีที่เราฝึกด้วยน้ำหนักเบา เราจะสามารถใช้แรงแขนยกขึ้นเองได้ แต่ในกรณีที่เราใช้ดัมเบลที่มีน้ำหนักมาก หลายคนก็อยากรู้ว่า แล้วจะเอายังให้มันขึ้นมาอยู่ในท่าเตรียมที่ไหล่ได้ วิธีการคือ วางดัมเบลที่หัวเขาปลายสุด จับดัมเบลไว้ แล้วใช้แรงส่งของหัวเข่าช่วยดัน ส่งแรงให้ดัมเบลขึ้นมาที่หัวไหล่นะคับ ถนัดข้างไหน ก็ทำข้างนั้นก่อน เท่านี้ ดัมเบล ก็จะขึ้นมาอยู่ในท่าเตรียม พร้อมฝึกได้ครับ

วิธีฝึก ให้จับดัมเบลด้วยมือทั้งสองให้แน่น เรียกได้ว่า ห้ามปล่อย ไม่งั้นตกลงมาอาจทำให้ ใบหน้าอันหล่อเหลา ของพวกเราเสียโฉมได้ ก็ลูกเหล็กที่แต่ละคน ฝึกกัน เบาซะที่ไหนละ ระวังกันหน่อยนะครับ หายใจลึกๆแล้วดันลูก ดัมเบลขึ้นสูงสุด พร้อมพ่นลมหายใจออก เมื่อลดระดับ ดัมเบลลง ให้หายใจเข้า เป็นระบบ ทำสัก 3-4 เซท ลองดูในรูปตามตัวอย่างนะครับ หลายตำรา ก็หลายแบบ หลายอาจารย์ ก็หลายทฤษฎีนะคับ ผมว่า วิชาการทำให้เราได้เรียนรู้ แต่การปฎบัติจริงนี่สิครับ แน่นอนทำเราสามารถพูดได้เต็มปาก เพราะเราฝึกจริง เลยพูดออกมาจากประสบการณ์ ขอให้ทุกท่านลองฝึกดูนะคับ แล้วทุกคนก็จะประสบผลสำเร็จ อย่างแน่นอน

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

กล้ามอก 3

Decline Barbell Press

ท่าอกด้านล่างก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันนะคับ เพราะอกเรา แบ่งออกเป็น 3 ส่วน มีอกบน อกกลาง อกล่าง และนี่ก็เป็นท่าสำหรับฝึก อกล่าง ท่าเตรียม โดยการนอนบนม้านอนเอียงที่ศรีษะลงต่ำกว่าลำตัว โดยปกติจะมีที่ล๊อคปลายขา ไม่ให้ลำตัวเคลื่อนไหวไปมา ท่านี้จะกล่าวถึงฝึกกับเครื่องแมชชีนก่อนนะคับ วิธีฝึกด้วยการยกบาร์หรือแกนเหล็กออกจากที่ล๊อก พร้อมสูดลมหายใจ ก่อนที่จะยกเหล็ก ค่อยๆลดระดับลงจนกระทั่งเหล็กลงมาแตะหน้าอก และจากนั้นก็ดันเหล็กขึ้นไปกลับสู่ท่าเริ่มต้น พร้อมกับหายใจออก ในกรณีที่เราใช้ปริมาณเหล็กมากกว่าเดิม ควรที่จะยกเหล็กอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะฝึกจริงๆควรที่จะวอร์มด้วยการใช้น้ำหนักที่เบาๆก่อนนะครับ จริงๆแล้วการฝึกอก 3 ท่านี้ก็เพียงพอต่อการกระตุ้นกล้ามเนื้ออก แต่เนื่องจากร่างกายคนเราจะปรับตัวและรับกับน้ำหนักได้ทำให้กล้ามอก ไม่มีการพัฒนา จึงต้องมีท่าฝึกอื่นๆอีกที่เกี่ยวกับ กล้ามอก

วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

กล้ามอก 2

Incline Barbell Press

กล้ามอกเป็นสิ่งที่พึงปรารถนาของชายทุกคน หากกล้ามอกแฟบแล้ว ก็เหมือนคนที่ไม่แข็งแรงเลยละคับ หลายท่านอาจหาทางในการปั๊ม ปั๊มและปั๊ม ให้อกใหญ่บึ้ม ใหญ่แบบรวดเร็วและใหญ่แบบทรมานใจหลายๆคน อิอิ ในวันนี้ เรามาต่อกันในท่าฝึกกล้ามที่ สองกันคับ นั่นคือ อกบน นั่นเอง จะฝึกกับ เครื่องแมชชีนก็ได้ หรือฝึกกับ บาเบลเลย ยิ่งทำให้กล้ามอก แกร่งยิ่งขึ้นเลยทีเดียว

ให้คุณอยู่ในท่าเตรียมด้วยการ นอนบนม้าเอียง 45 องศา วางขาทั้งสองอย่างสบายๆไม่ต้องเกร็ง บนพื้น มือจับบาเบลให้กว้างกว่าช่วงหัวไหล่พอประมาณ

สำหรับช่วงที่ดันอกคือ ออกแรงยกคานเหล็ก ออกจากแหล็กหรือที่คั่นเหล็ก สูดลมหายใจเข้า และดันเหล็กขึ้น สำหรับท่านที่เริ่มฝึกใหม่ ให้เลือกน้ำหนักเหล็กที่มีขนาดเบา หรือสามารถยกได้นะคับ อย่าเพิ่งใจร้อน ข้ามขั้น ยกหนักๆเลย โดยที่ยังไม่ได้ฝึก ปะเด๋วจะเหล็กจะทับหน้าอกตายก่อน ที่ยังไม่ได้ โชว์อกที่อุตส่าห์ฝึกมาเป็นแรมปี อ้าวพี่ ผมยังไม่ทันฝึกเลย มาแช่งกันซะละ อิอิ เตือนกันไว้ก่อนเด๋วใจร้อนเกินไป ยังไง เหล็กก็อยู่กับเราไม่หนีไปไหน ใจเย็นนะโยม 555+ เอาละ หลังจากดันเหล็กขึ้นไปจนสุดปลายแขน ต่อมาก็ลดระดับเหล็กลง พร้อมกับ สูดลมหายใจเข้าปอด ยิ่งเราฝึกด้วยน้ำหนักที่มี น้ำหนักมาก การออกแรงจะมากตามไปด้วย และการใช้พลังเสียง ก็มีส่วนช่วยได้เช่นกัน อย่างเช่นการร้องเรียกพลัง ในหลายๆฟิตเนส ก็มีคนร้อนเช่นนี้เสมอไม่ต้องตกใจ ว่าเขาบ้าไปแล้ว ถ้าเราฝึกหนักอีกหน่อยก็จะเป็นเช่นนี้คับ และอย่ากลัวที่จะฝึกหนักเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ รับรองว่าไม่ใหญ่อย่างรวดเร็วภายใน 3 เดือนแน่นอน เขาฝึกกันเป็น 4-5 ปีนะคับ โหพี่ผมยิ่งใจร้อนอยู่ เอาแบบที่ฝึกแล้วใหญ่ในชั่วข้ามคืนไม่ได้หรือ””ไม่ได้หรอกน้องคับ ไม่มีทางลัด มีแต่ทางตรง ไปทีละก้าวอย่างมั่นคงรับรอง กล้ามอก รอเราอยู่ ท้ายสุด ทุกท่านอย่าลืมวอร์ม กล้ามอก ก่อนฝึกจริงนะคับ ป้องกันการบาดเจ็บครับ

วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

กล้ามอก 1

Flat-Bench Barbell Press

หลังจากอันดับเวปบล๊อค ที่ผมได้เพิ่มบทความ ปกติจะอยู่ในอันดับหน้าแรกตลอดเลย มาดูอีกที โหบล็อกเรา มาอยู่ตั้งหน้าที่ 5 ของการหาจากกูเกิ้ล น่าตกใจ อย่างงี้ใครจะได้อ่านบทความที่เราตั้งใจเพิ่มเข้าไป เอาละไม่เป็นไร เรามาติดตามอ่านต่อในบทนี้กัน เกี่ยวกับ การเพิ่มกล้ามอก ให้ใหญ่ เล่นกล้ามอกยังไงให้มีการพัฒนา เล่นกล้ามอกยังไงให้บึ้มๆๆๆ จะฝึกกล้ามอก เท่าไหร่เซทดี ปราการด่านแรกที่จะเป็นที่ดึงดูดเมื่อยามพบกันนั่นก็คือ อก หากผู้ชายคนไหน ไม่มีกล้ามอก อกดูแฟบๆแบนๆ ไม่มีกล้ามเนื้อแล้ว เวลาใส่เสื้อรัดๆฟิตก็ดู ไม่เท่ ไม่แมนเอาซะเลย ยิ่งเวลาถอดเสื้อแล้ว ไม่มีกล้ามอกแล้ว ดูกะหร่องไปเลย แห้งๆ วันนี้เรามาฝึก ท่าแรกกันเลยคับ ด้วยการใช้บาร์เบล หรือเครื่องแมชชีนก็ได้ครับ แต่มีข้อดีแตกต่างกันคับ ฝึกด้วยการใช้ บาร์เบล จะทำให้ข้อมือแข็งแรงนอกจากการฝึกกล้ามอก แต่สำหรับการฝึกด้วยเครื่องแมชชีน แล้ว คุณจะสามารถเพิ่มน้ำหนักได้มากๆ เพื่อกระตุ้น กล้ามเนื้ออกโดยตรง

อย่าลืมว่า ก่อนการฝึกอันหนักหน่วงจะต้องมีการวอร์มสัก 1-2เซท นะครับเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ และก็เริ่มฝึกกัน ท่าดันอก

อยู่ในท่าเตรียม ด้วยการนอนบนม้าเรียบ วางเท้าทั้งสองบนพื้นแบบสบายนะครับ แผ่นหลังให้ราบไปกับม้านอน กะจับบาเบลด้วยมือทั้งสองข้าง ให้ลำตัวอยู่พอดีในแนวระดับหัวไหล่ อาจจะอยู่ต่ำกว่าหรือสูงกว่าเล็กน้อย ส่วนมือทั้งสองให้จับคานบาเบลให้ห่างจากหัวไหล่เล็กน้อย หรือพอดีครับ สำหรับช่วงฝึก ให้ยกบาเบลขึ้นออกจากที่วางคาน หรือที่ล๊อคแกนเหล็กครับ ค่อยๆลดระดับบาเบลลง พร้อมกับหายใจเข้า แล้วดันเหล็กขึ้น พร้อมกันหายใจออก โดยปกติแต่ละท่า จะทำอยู่ประมาณ 3-5เซท เซทละ 10-15 ครั้ง โดยส่วนมากแล้ว คนที่เข้ามาฝึกที่ฟิตเนส ก็มักจะฝึกท่านี้ประจำ เพราะอกเป็นสิ่งแรกที่เห็นเมื่อยามแรกพบ อยากแนะนำอีกนิดว่า อย่าใช้ระบบเด้ง นะคับนั่นคือ จังหวะที่เหล็กลดลงจนแตะอกแล้ว ให้กระเด้งออก เท่ากับว่าเราไม่ได้ใช้จากกล้ามอกเท่าไหร่นักคับ ให้ดันเหล็กขึ้นสุดลงสุดคับจะได้ผลมากกว่า และการฝึกในแต่ละครั้งที่เราเข้ายิม อยากจะบอกว่า ให้ฝึกจนล้าไปเลย นะคับ กล้ามเนื้อจะพัฒนาและโตไวมาก เอาละ วันนี้พอแค่นี้ก่อนดึกมากละ ครั้งหน้าจะมาแนะนำท่า ฝึกกล้ามอก อีกท่าครับ

วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ตารางอาหาร โดย ปีเตอร์ ธูนสตระ

ในบทความที่แล้วผมได้ นำพลังงานของอาหารมาให้ชมกัน เกือบจะคลอบคลุม ในแต่ละชนิด แต่ก็อาจจะมีบางท่าน อยากจะเห็นรายการอาหารจริงๆที่ นายแบบ อย่างในเมืองไทย เขาทานกัน ว่ามีอะไรบ้าง ไม่จำเป็นต้องต่างประเทศ เพราะรายการอาหารของเขา บางทีก็หายากซะเหลือเกิน แต่ในรายการอาหารที่ผมจะนำมาเสนอนี้เป็นรายการอาหารที่ หาทานง่าย อย่าง ข้าวโอ๊ต ก็หาง่ายตามห้างสรรพสินค้า ทั่วไป หรืออาหารเป็นจานๆ ดูรายการแล้ว มีทั่วไปตามร้านอาหารตามสั่ง แต่อาจจะต้องตีซี้(สนิท)สักหน่อยนะคับ เพราะถ้าเป็นรายการผัดแล้ว เราจะต้องไม่เอามันมาก ปะเด๋วแม่ค้าจะใส่น้ำมัน ผัดมาจนเยิ้มครับ สำหรับ รายการอาหารที่ยกมานี้ มีทั้งหมด 7 วันเลย เป็นของ ดาราชาย ที่มีชื่อเสียง ในสมัย ที่แสดงหนังเรื่องข้าวนอกนา ทางช่อง 3 ชื่อ ปีเตอร์ ธูนสตระ ด้วยหุ่นอันเท่ห์ และหน้าตาอันหล่อเหลา จึงได้ผ่านงานแสดงอย่างสบาย และหุ่นที่กินขาด มีงานเดินแบบมากมาย ในช่วงที่กำลังดังครับ นาย ปีเตอร์ ชอบที่จะไปฝึกเล่นเวตเสมอๆ หุ่นจึงดูดีมาก เราลองมาดู รายการอาหารของเขากันครับ

วัน

มื้อที่ 1

มื้อที่ 2

มื้อที่ 3

มื้อที่ 4

วันจันทร์

ข้าวโอ๊ต 5 ช้อน

โยเกริ์ต 2 ถ้วย

น้ำส้ม

กล้วย 1 ลูก

วิตามินรวม

พาสต้ากับทูน่า

ขนมปังโฮลวีต

เนื้อผัดหน่อไม้ฝรั่ง

ข้าวเปล่า+ไข่ดาว

ทูน่า 1ป๋อง

น้ำส้ม

วันอังคาร

ธัญพืชอบแห้ง+นมพร่องมันเนย

ปลาแซลมอน

มันบด

ผักต้ม,ผักสีเขียว

เช่นหน่อไม้ฝรั่ง,ผักโขม

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

ข้าวเปล่า

ไข่ดาว

พีนัท บัตเตอร์

ขนมปังโฮลวีต

น้ำส้ม

วันพุธ

ข้าวโอ๊ต 5 ช้อน

โยเกิร์ต 2 ถ้วย

กล้วย 1ลูก

น้ำส้ม

วิตามินรวม

อกไก่อบ 2 ชิ้น

มันอบ

สลัดผักจานใหญ่

ขนมปังโฮลวีต

กระเพราเนื้อ

ไข่ดาว 2 ฟอง

ข้าวเปล่า

ทูน่า 2 กระป๋อง

นม

วันพฤหัส

ข้าวโอ๊ต 5 ช้อนโต๊ะ

ส้ม 2 ลูก

น้ำแอปเปิ้ล

โยเกิร์ต 1ถ้วย

วิตามินรวม 1 เม็ด

ปลาแซลมอน

มันบด

ผักสีเขียว

ไก่ตะไคร้

ผัดผักสีเขียว

ไข่เจียว 2ฟอง

ข้าว 1ทัพพี

เหมือนวันอังคาร

วันศุกร์

ธัญพืช+นม

โยเกิร์ต2ถ้วย

น้ำส้ม

กล้วย 1 ลูก

วิตามินรวม

กระเพราะทูน่า

ไข่ดาว

ผักสีเขียว

สเต็ก

มันอบ

ขนมปังโฮลวีท

สลัดผักจานใหญ่

ทูน่า

นม

วันเสาร์

ข้าวโอ๊ต 5 ช้อนโต๊ะ

กล้วย 1 ลูก

น้ำแอปเปิ้ล

วิตามินรวม

ปลาทอดราดพริก

ไข่เจียว 2ฟอง

ผักสีเขียว

สเต็ก

ไข่2 ฟอง

มันบด

ผักสีเขียว

ทูน่า

น้ำส้ม

วันอาทิตย์

เหมือนวันเสาร์

ข้าวมันไก่

ไข่ดาว

สเต็ก แซลมอน

ผักสีเขียว

ข้าว 1 ทัพพี

ผัดเปรี้ยวหวานไก่

ข้าว


ผมได้คัดลอกมาจากหนังสือ Fit & FIRM ซึ่ง ปีเตอร์ ธูนสตระ ได้เขียนไว้ครับ ไม่รู้ว่าหนังสือเล่มนี้ ปัจจุบันยังพอหาซื้อได้เปล่า ราคาเล่มละ 125 บาทเอง ปีเตอร์ได้แนะนำ ท่าฝึกกล้ามทุกขั้นตอนอย่างละเอียด การรีดไขมัน และโปรแกรมอาหาร ได้อย่างครบถ้วน ครับ




วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

อาหารและพลังงานที่ทานเข้าไป

หลังจากที่ผมได้พูดเกี่ยวกับ เรื่องการบริหาร และฝึกกล้ามในท่าต่างๆมามาก และยังแถมนำนายแบบหุ่นดีๆมาให้ท่านได้แอบอิจฉาเล่นๆอยู่หลายอาทิตย์เลย คราวนี้มาถึงเคล็ดลับสุดยอดอีกอย่างที่เรา ไม่ควรจะละเลยไป นั่นคือ อาหารที่เรากินเข้าไปครับ ไม่ว่าจะกินอะไรก็ต้องคัดสรรค์ และให้พลังเพียงพอไม่มากเกินไป ไม่งั้นจะเป็นการสะสมไขมันรอบเอวอีก การที่จะลดไขมันลงได้ อาหารก็สำคัญมากครับ ผมได้ให้สูตรอัตราการใช้พลังงาน ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ให้ดูแบบแยกเพศเลยครับ เพื่อความสะดวก วิธีการคำนวณก็ง่ายๆมากๆครับ รวมไปถึงได้นำ อาหารแต่ละชนิด ให้คุณได้ลองนำมาคิดรวมกันว่า กินอะไรไปจะได้ พลังต่อวันเท่าใด เท่านี้นะคับ ร่างกายคุณก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปทางที่ดีแล้ว โดยเฉพาะ กล้ามท้อง ที่ใครๆก็อยากจะมีกัน เรามาลองอ่านกันดูนะครับ

1.คำนวณพลังงานที่ใช้ต่อวันในภาวะร่างกายปกติ ด้วยสูตร BMR

ในภาวะปกติถ้าเราอยู่เฉยๆ เพียงแค่เดินไปเดินมา นั่งๆ นอนๆ อ่านหนังสือ ดูทีวี ร่างกายเราจะใช้พลังงานประมาณ 1600-2400 แคลอรี่ โดยขึ้นอยู่กับน้ำหนัก ส่วนสูง อายุ เพศ และโครงสร้างของร่างกาย เรียกการใช้พลังงานในภาวะปกตินี้ว่า Basal Metabolism Rate (BMR) โดยมีสูตรดังนี้

สำหรับผู้ชาย BMR = 66 + (13.7 x น้ำหนักตัวเป็น กก.) + (5 x ส่วนสูงเป็น ซม.) – (6.8 x อายุ)

สำหรับผู้หญิง
BMR = 665 + (9.6 x น้ำหนักตัวเป็น กก.) + (1.8 x ส่วนสูงเป็น ซม.) – (4.7 x อายุ)

ตัวอย่างเช่น ผู้หญิง อายุ 35 ปี ส่วนสูง 165 ซม. น้ำหนัก 60 กก.

BMR จะเท่ากับ 665 + (9.6 x 60) + (1.8 x 165) – (4.7 x 35) = 1373.5 แคลอรี่

· 2.คำนวณพลังงานที่ใช้เมื่อมีการทำกิจกรรมเพิ่มเติมในแต่ละวัน

เมื่อเราทราบพลังงานที่เราใช้ในภาวะปกติทั่วไปต่อวันจากค่า BMR แล้วหากเรามีีกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงาน หรือกิจกรรมการออกกำลังกายเพิ่มเติม ร่างกายก็จะมีการเผาผลาญพลังงานเืพื่อนำมาใช้มากขึ้น ซึ่งเราสามารถคำนวณพลังงานที่เราใช้เมื่อมีกิจกรรมเพิ่มเติมได้จากสูตรดังต่อไปนี้

2.1 นั่งทำงานอยู่กับที่ และไม่ได้ออกกำลังกายเลย = BMR x 1.2

2.2 ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเล็กน้อย ประมาณอาทิตย์ละ 1-3 วัน = BMR x 1.375

2.3 ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาปานกลาง ประมาณอาทิตย์ละ 3-5 วัน = BMR x 1.55

2.4 ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาอย่างหนัก ประมาณอาทิตย์ละ 6-7 วัน = BMR x 1.725

2.5 ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาอย่างหนักทุกวันเช้าเย็น = BMR x 1.725

ตัวอย่างเช่น BMR ของคุณ = 1502.9 คุณเป็นคนออกกำลังกายเล็กน้อย ก็เอา BMR x 1.375

นั่นคือปริมาณ แคลอรี่ที่คุณต้องการต่อหนึ่งวัน คือ 1502.9 x 1.375 = 2066.49 แคลอรี่

ดังนั้นเพื่อที่จะลดน้ำหนัก หรือควบคุมน้ำหนัก เราก็ไม่ควรทานอาหารมากเกินกว่าปริมาณแคลอรี่ ที่ร่างกายเราต้องการต่อวัน(อันนี้แน่นอน แต่ก็อย่างว่า เราเดินไปตามห้าง เห็นนู่นเห็นนี่ก็อยากหยิบกลับมากินที่บ้านให้ฉ่ำไปเลย )อดใจไว้หน่อยเพื่อกล้ามท้องของเราคับ

ส่วนตารางอาหารลองมาดูว่าคุณทานเข้าไปมีอะไรบ้างและมากไปหรือเปล่าคับ แต่ถ้าอยากให้มีมากกว่านี้ นอกเหนือจากรายการที่ผมหามาก็ แจ้งมานะคับ จะหามาเพิ่มอีกคับ















ตารางอาหารและแคลอรี่

(อาหารประมาณ 100 กรัม)

อาหาร

แคลอรี่

ข้าวสวย

366

ข้าวซ้อมมือ

357

ข้าวเหนียวขาว

355

ข้าวโอ๊ต

374

ข้าวโพดคั่ว

456

รำข้าว

276

ข้าวโพดต้ม

135

ก๋วยเตี๋ยว

88

ขนมปังปอนด์ขาว 1 แผ่น

70

ขนมจีน

90

บะหมี่

108

ปะหมี่สำเร็จรูป

382

มักกะโรนี สปาเก็ตตี้

110

ลูกเดือย

306

มันแกว

46

มันฝรั่ง

82

มันฝรั่งทอด

562

เนื้อหมูติดมัน

457

เนื้อหมูไม่ติดมัน

376

หมูแผ่น

610

ไส้กรอกหมู

590

หมูหยอง

370

แฮม 1 แผ่น

65

เนื้อวัวติดมัน

273

เนื้อวัวไม่ติดมัน

150

ลิ้นวัว

215

ปอดวัว

60

ผ้าขี้ริ้ว

30

เนื้อไก่

300

อกไก่

110

ปีกไก่

146

น่องไก่

115

หัวใจไก่

125

ตับไก่

145

เป็ด

115

เป็ดย่าง

185

เนื้อแพะไม่ติดมัน

180

กุนเชียง

350

หมูป่า

145

กุ้งทะเล

87

กุ้งน้ำจืด

82

กุ้งแห้ง

360

ปู

88

ปลาทูนึ่ง

115

ปลาร้า

135

ปลาสลิดแห้ง

265

ปลาช่อน

80

ปลาช่อนแห้ง

249

ปลาลิ้นหมา

90

ปลาดุก

100

ปลาเก๋า

83

ปลากะพงขาว

81

ปลากระบอก

125

ปลากระบอก(ไข่)

420

ปลาจะละเม็ดขาว

120

ปลาฉลาม

100

หอยนางรม

71

หอยแมลงภู่

57

หอยแครง

72

ผักกระเฉด

43

ผักคะน้า

35

ผักคะน้า(ใบ)

23

ผักกาดขาว

18

ผักกาดเขียว

24

ผักกาดหอม

21

ผักชี

37

ผักบุ้งไทย

24

ผักบุ้งจีน

23

กะหล่ำปลี

24

กะหล่ำดอก

29

กระถิน(ยอด)

59

กระถิน(ใบ)

68

ตำลึง

28

น้ำเต้า

16

บวบกลม

19

บวบเหลี่ยม

17

แตงกวา

15

แตงร้าน

15

ต้นหอม(ทั้งต้น)

36

ต้นหอม(หัว)

45

ต้นกุยช่าย

28

ดอกกุยช่าย

40

แครอต

55

กระเทียม

117

ถั่วลันเตา(เมล็ด)

94

ถั่วลันเตา(ฝัก)

39

ถั่วงอก

30

ถั่วฝักยาว

38

ใบขี้เหล็ก

114

ฟักทอง

50

ฟักเขียว

13

มะเขือเปราะ

32

มะเขือพวง

49

มะเขือยาว

25

มะเขือเทศ

20

มะละกอ(ดิบ)

26

มะระจีน

16

หน่อไม้

28

พริกขี้หนู

68

พริกชี้ฟ้า

56

พริกหยวก

35

พริกหวาน

26

หอมหัวใหญ่

38

หอมหัวเล็ก

48

เห็ดหูหนู

280

เห็ดฟาง

34

เห็ดโคน

38

เต้าหู้ขาว

63

เต้าหู้แผ่น

113

งาดำ

588

งาขาว

595

เกาลัดคั่ว

246

ถั่วแขก

365

ถั่วเขียว

356

ถั่วดำ

340

ถั่วลิสง

303

ถั่วเหลือง

402

เม็ดมะม่วงหิมพานต์

568

เมล็ดอัลมอนต์

603

แปะก๊วย

185

ไข่ไก่ 1 ฟอง

70

ไข่เป็ด 1 ฟอง

80

ไข่นกกระทา 1 ฟอง

15

นมวัว

62

นม(คน)

60

นมวัวพร่องมันเนย

34

นมแพะ

65

น้ำมันพืช

884

น้ำมันหมู

900

น้ำมันงา

880

เนยแท้

729

เนยแข็ง(ชีส)

360

เนยเทียม(มาการีน)

725

มะพร้าวอ่อน

77

มะพร้าวแก่

312

น้ำมะพร้าวอ่อน

22

มะละกอสุก

25

กล้วยหอม

131

กล้วยไข่

144

กล้วยน้ำว้า

100

กล้วยหักมุก

112

แคนตาลูป

30

แอปเปิ้ล

59

ฝรั่ง

50

แตงโมแดง

20

แตงโมเหลือง

19

แตงไทยอ่อน

19

แตงไทยแก่

12

ชมพู่

30

ส้มเขียวหวาน

44

ส้มโอ

39

สตรอเบอร์ร่

34

สับประรด

47

พุทรา

82

ลิ้นจี่

65

ลำไย

71

มะขามเทศ

78

มะขามหวาน

315

ทุเรียนก้านยาว

178

ทุเรียนชะนี

145

อินทผลัม

290

น้ำผึ้ง

280

น้ำอ้อยสด

75

น้ำตาล 1 ช้อนชา

15

น้ำอัดลม 12 ออนซ์

129

น้ำมะเขือเทศกระป๋อง

50

เบียร์ ไวน์ (แอลกอฮอล์ 3.9%)

40

ชาดำเย็น

98

ข้าวหมกไก่

315

ข้าวหมูแดง

320

ข้าวกระเพราไก่

295

ข้าวผัดหมูใส่ไข่

315

ข้าวมันไก่

300

ข้าวคลุกกะปิ

295

ข้าวหน้าเป็ด

300

ข้าวผัดปู

380

ข้าวหน้าหมูอบ

250

ข้าวพะแนงเนื้อ

292

ข้าวเปล่า

249

ข้าวขาหมู

289

ข้าวราดแกงเขียวหวานไก่

317

ข้าวยำปักษ์ใต้

190

ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าหมู

400

ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าไก่

370

ก๋วยเตี๋ยวราดหน้ากุ้ง

380

ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้น

470

เย็นตาโฟ

398

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับ

380

ก๋วยเตี๋ยวแกง

355

ผัดไทย

410

ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊ว

400

ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กแห้ง

248

ขนมจีนน้ำยาปักษ์ใต้

300

ขนมจีนน้ำพริก

370

ขนมจีนน้ำเงี๊ยว

325

ขนมจีนน้ำยา

398

ขนมจีนซาวน้ำ

320

กระเพาะปลาปรุงสำเร็จ

388

หอยแมลงภู่ทอดใส่ไข่

198

ขนมผักกาดทอดใส่ไข่

298

หมี่กะทิ

270

หมี่กรอบ

115

ไข่ดาว 1 ฟอง

55

ไข่เจียว 2 ฟอง

450

ผัดคะน้าปลาเค็ม

180

ผัดผักบุ้งไฟแดง

140

แกงเนื้อ

80

แกงจืดหน่อไม้ใส่ไก่

40

แกงจืดวุ้นเส้นหมูสับ

60

แกงกะหรี่

138

ต้มข่าไก่

110

ต้มยำกุ้ง

230

ลาบหมู

240

น้ำพริกและปลาทู

298

ส้มตำ

60

กล้วยบวชชี

146

นมสด

170