วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ฟันกับการกินนักเพาะกาย

เชื่อไหมครับ นักเพาะกาย จะมีร่างกายที่มีขนาดใหญ่โตได้ จะต้องได้รับพลังงาน จากการทาน ถึงวันละ 3000-4500กิโลแคลลอรี่ ซึ่งจะทำให้ฟัน ของนักเพาะกายมีปัญหา ควรที่จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีครับ
โดยเฉพาะฟันกราม นักเพาะกายจะต้องหมั่น ทำความสะอาดให้ดีนะคับ จากประวัติทางคลินิก ค้นพบว่า ฟันของนักเพาะกายโดยเฉพาะฟันกรามจะสึกกร่อนมากกว่าคนปกติ เนื่องจากการทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ จำเป็นต้องใช้ฟันกรามในการบดเคี้ยวเนื้อทำให้ฟันสึกและสั้นลงเร็ว กว่าคนปกติ จากสถิติ ปกติคนเราต้องทานอาหาร ด้วยพลังงาน 1800-2000กิโลแคลอรี่ ด้วยปริมาณอาหาร 5ขีด-1กิโลกรัมแล้วชนิดของอาหาร แต่สำหรับนักเพาะกาย จะต้องกินเพื่อสร้างกล้าม ต้องการปริมาณสูง ต้องกินถึงวันละ 3000-4500กิโลแคลอรี่ นั่นคือ 1.5-2กิโลเลยทีเดียว ถ้าคุณเริ่มตอนอายุ 28ปี เล่นกล้าม 10 ปีจนอายุ 38 ปี ฟันคุณต้องบดขยี้อาหารขนาดไหน และสั้นลงขนาดไหน ลองคิดดู ถ้าเดินเขาคลินิก เพื่อที่จะไปขูดหินปูน แล้วคุณหมอเตือนถึงการทานอาหารที่หนักๆ อย่างเนื้อสัตว์ และเตือนให้ทานอาหารเบาๆ ซึ่งสวนทางกับการสร้างกล้ามอย่างชิ้นเชิง ยิ่งถ้าคุณเริ่มตั้งแต่อายุช่วงวัยรุ่น แล้วฟันคุณจะถูกทำลายขนาดไหน ข่าวดี ยังพอมีทางแก้ หลายคน ยังหันมาดื่มเวย์โปรตีนแทน เพื่อลดการใช้ฟัน และง่ายต่อการทานอีกกว่าเป็นไหนๆ สำหรับอาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด จะประกอบด้วยคุณสมบัติของกรด ที่สามารถทำให้เกิด การสึกของฟันได้ ลองสังเกตดูก็ว่า เวลาเรากินของเปรี้ยวมากๆ จะมีความรู้สึกที่เรียกว่าเข็ดฟัน นั่นก็เพราะ รสเปรี้ยวมีการซึมผ่านเข้าไปในตัวฟัน ถึงประสาทรับความรู้สึก ทำให้เกิดความรู้สึกเสียวฟันขึ้นได้
การรับประทานของเปรี้ยวนานๆ ยังมีผลทำให้ปฏิกิริยาของกรด กัดกร่อนตัวฟัน เกิดการสูญเสียเคลือบฟัน ทำให้เคลือบฟันบางลงไป และใกล้ชั้นเนื้อฟันเข้าไปมากขึ้น
ฟันสึกเพราะกินของเปรี้ยวทางที่ดี ควรลดพฤติกรรมการกินอาหารที่มีรสเปรี้ยวจัดลงไป หรือรับประทานในปริมาณที่น้อยลง หรือภายหลังรับประทานให้บ้วนปาก หรือทำความสะอาดช่องปากทุกครั้งหลังรับประทาน ก็พอจะช่วยลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาไปได้บ้าง

สำหรับนักเพาะกาย เมื่อกินอาหารในปริมาณที่มาก ก็จะพยายามรักษาฟันให้สะอาด ไม่อยากให้ลมหายใจเหม็น หลายคนคิดว่า ต้องแปรงฟันแรงๆ จึงจะสะอาด ... หลายคนคิดว่า การแปรงฟันแบบถูไปๆ มาๆ จะสะอาดได้ดี ... หลายคนคิดว่า ต้องใช้แปรงสีฟันแข็งๆ เหล่านี้ก่อให้เกิดผลเสียนะคะ
เพราะว่าการแปรงฟันแรงๆ การแปรงฟันแบบถูไปๆ มาๆ การใช้แปรงสีฟันแข็ง จะเป็นเครื่องมือช่วยเสริม ให้เกิดการทำลายเนื้อฟัน โดยเฉพาะบริเวณคอฟันได้ เรียกว่า ฟันสึก
การสึกของฟันที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้เกิดการทำลายของชั้นเคลือบฟัน ทำให้ชั้นเนื้อฟันมีส่วนสัมผัส กับสภาพในช่องปาก เมื่อมีการรับประทานอาหาร ที่มีรสหวานจัด เปรี้ยวจัด เย็นจัด ร่างกายก็จะรับความสรู้สึกเสียว จากตัวฟันเข้าได้ง่าย ฟันจึงจะมีอาการเสียวมากขึ้น
การรักษาก็ต้องใช้ฟลูออไรด์ทาสัมผัสที่ผิวฟัน ซึ่งได้จากยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพื่อลดการเสียวของฟัน หรือการอุดฟัน แต่บางครั้งการใช้ฟลูออไรด์ หรือการอุดฟัน ก็ไม่สามารถลดความรู้สึกเสียว ให้หมดไปได้หมด เพราะการสึกใกล้โพรงประสาทฟันมากแล้ว ถ้าจะตัดปัญหาความรู้สึกเสียให้หมดไป ก็คงต้องดึงเส้นประสาทฟันออก เป็นการรักษาคลองรากฟัน ให้ไม่มีความรู้สึก แล้วก็ตามด้วยการอุดฟัน หรือครอบฟันนั่นแหล่ะ จึงจะสำเร็จ
อย่ากระนั้นเลย ป้องกันฟัน ไม่ให้เสียว เป็นดีที่สุดครับ
สำหรับ บางคนอาจทานแบบเร่งรีบ โดยเฉพาะ การกิน เนื้อย่างแบบบุฟเฟ่ ต้องรีบๆกิน จนไปกิน เจอเอาอาหารแข็งหรือกระดูก จนทำให้เกิดอาการฟันแตกซึ่งรักษาได้ยากมาก ส่วนใหญ่จะได้ถอนออก เพราะไม่สามารถบอกได้ว่ารอยแตกลึกไปถึงไหน ถึงแม้จะลองรักษาหรือบูรณะ อาจเสียเงินเปล่าหากรอยร้าวแตกทะลุหรือรากฟันแบบผ่าซีก การรักษาฟันแตก มีหลายระดับ ตั้งแต่ ถ้าเป็นน้อยอาจแค่อุดฟัน เป็นมากขึ้นอาจทำครอบฟัน ถ้าฟันแตกจนทะลุประสาทฟัน จะต้องรักษารากฟันและทำครอบฟันทับลงไปอีกที แต่ขอย้ำว่าโอกาสนั้นมี แต่ก็ไม่มาก และต้องเผื่อใจหากไม่ประสบความสำเร็จ เอาว่า อยากได้กล้ามแต่ก็ต้อง พยายามรักษาฟันไว้ด้วย จะได้อยู่คู่กับเรานานๆเมื่อตอนเรามีอายุจะได้มีฟันไว้คบเคี้ยวสบายๆ ไม่ต้องกินแต่โจ๊กหรือข้าวต้มครับ