ฝึกกล้ามแบบฉลาดๆโตไว

เวิร์กเอาด์แบบฉลาดๆสุดๆ

ในการคัดสรร เลือกมัดกล้ามเนื้อให้ครบตาม กลุ่มเป้าหมาย  ผมเห็นด้วยอย่างสุดๆเลยว่า การฝึก”แบบชาญฉลาด”

ไม่ใช่ฝึกแบบบ้าพลัง ลองฝึกโปรแกรมด้านล่างนี้ โดยฝึกตามที่บอก 5ข้อคือ

1 ยกหนักให้กล้ามใหญ่

2 ยกเร็วให้กล้ามใหญ่

3 หยุดเมื่อควรหยุด

4 อย่าดูถูกเซทขนาดย่อม

5 คิดใหญ่กล้ามใหญ่

ตารางมีดังนี้

จันทร์1 bench press

       2  chin up

       3 deadlift

พุธ 1shoulder press

     2 arm row

     3 step up

ศุกร์  1 barbell bent over

       2 dip

       3 squats

ฝึกให้ได้จำนวนครั้งรวมท่าละ 15 ครั้ง  โดยเลือกน้ำหนักที่คุณสามารถฝึกได้ 2-3 ครั้ง ก่อนความเร็วและท่วงท่าในการฝึกจะตก พักระหว่างเซท 90วินาที

วิธีเลือกรองเท้าให้เหมาะกับฝ่าเท้า

นพ. วิเชียร จิระบุญศรี ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเท้า กล่าวว่า เท้าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก แต่คนเรามักละเลยในการดูแลเท้า เราจะเริ่มเห็นความสำคัญของเท้าก็ต่อเมื่ออาการบาดเจ็บ ฉะนั้นการเลือกซื้อรองเท้ากีฬานั้นควรมองรองเท้ากีฬาให้เป็นเหมือน 'อุปกรณ์กีฬาชนิดหนึ่ง' การเลือกรองเท้าผิดประเภทก็จะทำให้การเล่นกีฬาชนิดนั้นๆ ทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และในบางกรณีที่ร้ายแรงอาจถึงขั้นทำให้หมดอนาคตในการเล่นกีฬาไปเลยก็ได้

ในทางการแพทย์เราสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท โดยดูจากการที่เมื่อเราลงน้ำหนักตัวไปที่ฝ่าเท้าแล้ว เท้าของเรามีลักษณะใดลักษณะหนึ่ง นั่นคือ

• The Pornator Type (Flat Foot, Low Arch Foot) เป็นลักษณะของเท้าที่มีวงโค้งตรงกลางฝ่าเท้าค่อนข้างน้อย อุ้งเท้าแบนราบติดกับพื้นดินหรือคนที่มีฝ่าเท้าแบน
• The Supinator Type (High Arch Foot) ก็คือตรงข้ามกัน กล่าวคือเมื่อกดน้ำหนักลงบนพื้น ด้านนิ้วก้อยจะมีพื้นที่สัมผัสกับพื้นมากกว่าปกติ เนื่องจากอุ้งเท้าโค้งขึ้นไปเยอะ ทำให้ส่วนสัมผัสที่รับน้ำหนักจะมีแค่ส่วนหน้ากับส่วนหลัง (ส้นเท้า) เท่านั้น ทำให้ส่วนที่จะมารองรับน้ำหนักมีน้อยลง
• The Neutral Type เป็นลักษณะเท้าของคนทั่วๆ ไปที่ีมักจะเป็นกันคืออยู่ระหว่างกลางของทั่ง 2 อย่าง

 วิธีทดสอบว่าเรามีเื้ท้าประเภทไหน

ให้เอาเท้าเหยียบน้ำ แล้วไปเหยียบลงบนกระดาษ แล้วสังเกตรอยเท้าที่ปรากฏ ถ้ารอยเท้าที่ปรากฏมีเต็มรูปฝ่าเท้าเลย ก็จัดว่าอยู่ในพวก Low Arch Type แต่ถ้ามีส่วนเว้าปรากฏขึ้นมาน้อย หรือว่าบางคนอาจจะเห็นเป็นเส้นขีดเล็กๆ แบบนี้ก็จัดว่าอยู่ในประเภท High Arch Foot หรืออาจจะไปตามร้านขายรองเท้าต่างๆ จะมีแผ่นวัดเท้าที่เรียกว่า Foot Disc ให้ลองวัด เพื่อจะได้เลือกซื้อรองเท้าให้เหมาะสมกับประเภทเท้าของแต่ละคน

ขอบพระคุณเวป http://men.mthai.com/health-firm/5054.html

กินข้าวตอนเย็นอ้วนไหม

การทานข้าวเย็น จะอ้วนไหมครับ คำถามที่ถามกันบ่อย และมีบางท่าน อดข้าวไปเลย หลังออกกำลังกาย รีบนอนจะได้ไม่หิว ขอแนะนำดังนี้นะครับ การทานข้าวเย็น ทานได้นะครับ เพียงแต่อาหาร อย่าเน้นเค็ม เพราะอาหารตามสั่งตามร้านข้าวต้ม มักปรุงเค็มมาก อาจบอกร้านค้าว่า ไม่เค็ม ส่วนอาหารหลีกเลี่ยง การทานข้าวมาก ให้ทานแต่ปริมาณที่น้อยลง หลีกเลี่ยงอาหารผัดที่มันมากๆครับ  ส่วนท่านที่อยากลดน้ำหนัก อย่างถูกวิธี ต้องลดปริมาณข้าวลง ห้ามอดข้าวเย็นเด็ดขาด เพราะจะทำให้ ร่างกายไม่ยอม สลายไขมันออกมา แต่ให้ทานข้าวแต่น้อย เพิ่มเนื้อสัตว์ไม่มันแทนที่ เช่น เนื้อปลา เนื้อไำ่ก่ เนื้อวัว โดยทำเป็นอบ ลวก ต้ม ถึงจะดีไม่มันมากเน้นเนื้อไม่ติดมันนะครับ สำหรับการทานอาหารทั้งวัน ให้แบ่งเป็นมื้อย่อยๆจาก3 มื้อหนักๆ เป็น5มื้อย่อยๆแทนครับ เมื่อร่างกายอิ่มตลอด ร่างกายก็จะยอมสลายไขมันออกมาอย่างง่ายดาย และอย่าลืมคาดิโอด้วยนะครับ อย่างน้อยครั้งละ30 นาที

วิธีชลอวัยสำหรับผู้ชาย

ชะลอวัย คุณก็สามารถทำได้ครับ ด้วยตัวคุณเอง หลายปีก่อน การรักษา โรคภัยไข้เจ็บมักจะรักษากันยาก แต่เมื่อมีวิวัฒนาการ ทำให้การรักษาก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น  การรักษาอาการแก่ของมนุษย์ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
การรับประทานอาหารให้ถูกต้อง
อาหารที่แนะนำที่ควรทานบ่อยๆ คือผักและผลไม้ ส่วนโปรตีนจากเนื้อสัตว์นั้น ต้องเป็นโปรตีนที่ไขมันต่ำ เช่นโปรตีน จากอาหารทะเล ไข่ขาว ผลิตภัณนมพร่องมันเนย เนื้อส่วนอกของไก่ และโปรตีน จากพืช เช่น ถั่วเหลือง แม้แต่ผลอโวคะโด ก็เป็นสารที่ช่วยทำให้สมองและหัวใจแข็งแรงครับ
ส่วนน้ำมันที่ไม่มีประโยชน์ เช่นน้ำมันหมู น้ำมันที่พ่อค้านำมาทำกับข้าวราคาถูก ต้องระวังนิดนึงครับ สอบถามให้ดีก่อนบริโภค
ควบคุมน้ำหนัก
จำเป็นมากสำหรับคนที่มีอายุมากขึ้น เราต้องการความคล่องตัีว และคนที่อายุมาก ร่างกายมักเผาผลาญน้อยลง โดยที่ทำให้เรามีน้ำหนักมากขึ้น โดยที่ไม่รู้ตัวครับ ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก ทั้งนี้ ต้องหมั่นชั่งน้ำหนักสม่ำเสมอครับ
ออกกำลังกายเป็นประจำ
เริ่มจากการออกกำลังกาย ที่ใช้กล้ามเนื้อหัวใจและหลอดเลือด การออกกำลังกายที่ยืดเอ็นและกล้าเนื้อ เช่นการยกเวทบ้าง ไม่ถึงกับหนัก สำหรับคนที่อายุ 35-55ปี อย่าลืม หมั่นทำการวิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน สลับกิจกรรมกันไป เพื่อไม่ให้เบื่อครับ

ฟิตกล้ามสไตล์เกาหลี

ห่างหายกันไปนาน คิดถึงกันบ้างไหมครับ พอดีผมติดธุระ ต้องเดินทางไปมา ต่างจังหวัด หลายเที่ยว จนไม่มีโอกาสได้ มาเพิ่มบทความ ตั้งแต่ก่อนปีใหม่ สบายดีกันทุกคนนะครับ ปีใหม่ 2556 ขอให้ทุกท่าน ประสบแต่ความสุข โชคดี ร่ำรวย มีเงินมีทอง กันเยอะๆ สาธุ  นายแบบคนนี้ เป็นถึง เทรนเนอร์ ที่มีดีกรี หน้าตา โด่งดัง แถมเป็นเทรนเนอร์อีก  น่าอิจฉาจัง หล่อและหุ่นดี  สำหรับพวกเราที่อยากจะมีหุ่น ฟิตเฟริ์มแบบนี้ ก็สามารถสร้างขึ้นมาได้ครับ

เริ่มจาก การสร้างกล้าม ด้วย การยกเวท (ใช้น้ำหนัก) เป็นแรงต้านนั่นเอง ท่าต่างๆ ให้ดูจากในภาพนะครับ แต่ท่าพื้นฐาน ที่จะสร้าง ให้เรามีกล้ามขึ้นมาได้ นั่นคือ การวิดพื้น นั่นเอง อย่างการสร้างกล้ามไหล่ ให้ยกดัมเบลไว้ที่ข้างๆหัวไหล่ แล้วยกขึ้นครับ อีกอย่าง ที่หลายคน มักมีปัญหา นั่นคือ การสร้ากล้ามท้อง ให้มีความคมชัด บอกได้เลยว่า นอกจากการเล่นกล้ามแล้ว การคาดิโอ ด้วยการวิ่ง ก็มีส่วนสำคัญ ซึ่งผมได้พยายามบอกอยู่เสมอครับ ท่าต่างๆ ให้ทำเป็น เซท เซทละ 12-15 ครั้ง ท่าละ 3-4 เซทครับ หลายคนยังลังเล ไม่ยอมเริ่มเล่น แต่มักจะอ่านบทความ อ่านไปอ่านมาเลย ลังเลไม่เริ่มสักที ลองตั้งเป้านะครับ แล้วสิ่งที่คุณ อยากได้ จะค่อยๆคืบคลานเข้ามาครับ